วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555





























ศิลปะบนพื้นไม้
ลายไม้บนผิวไม้เป็นลวดลายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เมื่อได้นำมาร่วมใช้กับศิลปะการเขียนภาพ จะเพิ่มความแปลกใหม่ กลมกลืนกับวิธีการเขียนภาพแบบไทย ดูมีเสน่ห์ ลึกลับน่าสนใจ มีพลังให้คุณค่ากับศิลปะไปอีกรูปแบบหนึ่ง
ผลงาน "ศิลปะบนพื้นไม้" ของโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่เขต 2 เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจและเห็นคุณค่าของครูนวมิตร อย่าลืมญาติ และครูประกิต สร้อยกาบแก้ว ได้พบว่าพื้นโต๊ะนักเรียนที่ผุพัง บานประตูที่ชำรุด เศษไม้ที่ทิ้งเป็นกองๆ ที่ไม่มีใครสนใจ บางคนอาจขายเป็นเศษขยะหรือเผาทิ้งเป็นขี้เถ้า แต่ครูทั้งสองเห็นคุณค่าความงามของลายไม้จากเศษไม้เหล่านั้น จึงมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นำมาเพิ่มคุณค่าให้เกิดความงามทางศิลปะขึ้น
โรงเรียนแม่ริมวิทยาคมให้ข้อมูลว่า โรงเรียนให้ความสำคัญกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะเทียบเท่ากับกลุ่มสาระอื่นๆ เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า วิชาศิลปะสามารถลดพฤติกรรมอันไม่พึ่งประสงค์ต่างๆ ของนักเรียนได้เป็นอย่างดี หากนักเรียนมีความรู้ความสามารถทางศิลปะก็จะสามารถสร้างรายได้และและสร้างชื่อเสียงให้กับนักเรียนและโรงเรียนได้อีกด้วย พระไตรปิฎกตอนหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงยกย่องว่าศิลปะเป็นมงคลชนิดหนึ่ง ที่เป็นแนวคิดหลักที่ทางโรงเรียรแม่ริมวิทยาคมได้กำหนดหลักสูตรสาระเพิ่มเติมวิชาช่างเขียนสี "ศิลปะบนพื้นไม้" และวิชาศิลปะอื่นๆ ขึ้นสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายได้เรียนรู้ นักเรียนใช้เวลาศึกฝนเรียรรู้งานศิลปะบนพื้นไม้ทั้งในและนอกเวลาเรียน จนกระทั่งผลงานมีความโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับได้รับการคัดสรรเป็น "หนึ่งโรงเรียน หนึ่งผลิตภัณฑ์"
ครูนวมิตร ซึ่งเป็นครูผู้สอนเล่าว่า วิชาศิลปะบนพื้นไม้เป็นเพียงวิชาหนึ่งของวิชาศิลปะหลายๆวิชาของโรงเรียน เปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ไม่ได้ใช้เวลาเรียนมากว่าวิชาศิลปะอื่นๆ แต่สำคัญที่สุดคือ การใช้เวลานอกเวลาเรียนในการฝึกฝนทักษะและทำงาน ภาพที่นำเสนอบนพื้นไม้จะเป็นศิลปะไทย เช่น ภาพนางในวรรณคดี สัตว์หิมพานต์ รูปเคารพ และเทวดา
เสน่ห์ของภาพที่ปรากฏลวดลายไม้ที่โดดเด่นชัดเจน ส่งให้ไม้มีคุณค่าและได้ภาพที่มีพลัง
เทคนิคการใช้สีที่ระบายลงในภาพพื้นไม้จะใช้สีอคริลิค (Acrylic) ผสมกับสีผุ่นจีนซึงทำให้สีนิ่มนวลและเก็บได้นาน เทคนิคการใช้สีสูตรผสมนี้จะใช้ได้เฉพาะบนพื้นไม้เท่านั้น สูตรสีนี้ครูนวมิตรเป็นผู้คิดค้นด้วยตนเอง ภาพที่วาดด้วยสีนี้จะมีอายุใช้งานได้ถึง 50-60 ปี
การผลิตชิ้นงาน
นักเรียนที่อยู่ในช่วงฝีกใหม่ จะลงภาพบนพื้นไม้อัดสักที่ซื้อมาจากร้าน สำหรับมืออาชีพจะใช้ไม้สักเก่าที่หาซื้อตามบ้านที่รื้อถอน การศร้างสรรค์งานดีๆ แต่ละภาพอาศัยการทำงานเป็นทีม และต้องเป็นทีมคุณภาพที่ผ่านการฝึกฝนจนมีความชำนาญ มีตั้งแต่แผนกลอกลาย แผนกตัดเส้น แผนกลงสีทอง แผนกลงสีธรรมดา แผนกตกแต่งเงาเพื่อทำภาพเป็นสามมิติ และแผนกเก็บรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้าย กว่าจะได้งานมาแต่ละภาพ ต้องประสานความร่วมมือเป็นหนี่งเดียวที่ถอดออกมาจากจิตวิญญาณของแต่ละคน ไม้ทุกแผ่นที่นำมาใช้จะถูกคัดเลือกให้เหมาะสมกับภาพ เมื่อได้ภาพที่สมบูรณ์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือนำภาพมาใส่กรอบ โรงเรียนสามารถลดต้นทุนเรื่องกรอบภาพได้อย่างชาญฉลาด โดยมีนักการภารโรงเป็นผู้สอน นักเรียนเรียนรู้ ฝึกฝนการเข้ากรอบรูปจนสามารถเข้ากรอบรูปได้อย่างสวยงาม รูปที่วาดแล้วจัดเก็บอยู่ในร่ม ไม่ให้ถูกแดดถูกฝน การทำความสะอาดใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดๆ เช็ดทำความสะอาด ก็จะได้ภาพบนพื้นไม้ที่มีความงดงามทางศิลปะยากที่จะบรรยายคุณค่าได้
คุณค่าที่ได้รับ
วัสดุเหลือใช้ได้ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า รักษาสภาพแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ นักเรียนได้ทำงานเป็นทีม มีสมาธิ มีความรับผิดชอบ ได้สัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติมีจิตใจที่อ่อนโยน
5 ปีที่ครูนวมิตรทุ่มเทแรงกายแรงใจสั่งสอนศิษย์ จนสามารถสร้างเอกลักษณ์ผลงานได้อย่างโดดเด่น สร้างรายได้ให้นักเรียนระหว่างเรียนและเป็นพื้นฐานการประกอบอาชีพในอนาคต ผลงานนี้ผู้ชื่อชอบงานศิลปะที่งามแบบ Classic ทั้งในและต่างประเทศได้เป็นลูกค้าของโรงเรียน บางครั้งมีการสั่งจ้างทำและกำหนดรับของภายหลัง นอกจากนี้ประเทศไต้หวันและประเทศญี่ปุ่นได้มาถ่ายทำเป็นสารคดีเผยแพร่สู่สายตาชาวโลกอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น